การอ่านเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ชื่นชอบการอ่านบน iPhone, iPod touch หรือ iPad จะทราบถึงคุณลักษณะ ‘Reader’ อันยอดเยี่ยมของ Mobile Safari ซึ่งจะตัดหน้าเว็บปัจจุบันขององค์ประกอบที่เป็นการรบกวน เช่น เมนูหรือโฆษณาเพื่อการอ่านที่ไม่เกะกะ หากคุณกำลังมองหาวิธีใช้งานฟังก์ชันที่คล้ายกันบนเบราว์เซอร์อื่น สมมติว่า Chrome หรือบนแพลตฟอร์มมือถืออื่นนอกเหนือจาก iOS เช่น Android หรือ Windows Phone ลองใช้บุ๊กมาร์ก ‘อ่านเลย’ ของความสามารถในการอ่านได้เลย เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Reader ใน Safari สำหรับ iOS ฟีเจอร์นี้จะ “ขัดหน้าเว็บที่มีสิ่งรบกวนสมาธิ” ทำให้มีการตั้งค่าที่สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับการอ่านบทความที่ยาวขึ้นและโพสต์ในบล็อก ในคู่มือนี้ เราจะแสดงวิธีทำให้ Chrome ใช้งานได้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่น เปิดเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ แล้วไปที่ หน้า Bookmarklet ของความสามารถในการอ่านได้. ที่นี่ คุณจะพบ bookmarklet ที่เชื่อมโยงกับภาพ ‘อ่านเลย’ ตอนนี้ หากคุณใช้เบราว์เซอร์เดสก์ท็อป คุณสามารถลาก bookmarklet ไปที่บุ๊คมาร์คหรือแถบรายการโปรด
สำหรับเบราว์เซอร์มือถือ คุณจะต้องคัดลอกโค้ด Javascript ของ bookmarklet และสร้างบุ๊กมาร์กด้วยตนเอง หากคุณกำลังใช้ Chrome สำหรับโทรศัพท์มือถือ เช่นที่เราอยู่ในตัวอย่างนี้ ให้แตะรูปภาพ “อ่านเลย” ค้างไว้แล้วเลือก “คัดลอกที่อยู่ลิงก์” จากเมนูที่ตามมา การดำเนินการนี้จะคัดลอกโค้ด JavaScript ที่เกี่ยวข้องไปยังคลิปบอร์ด
หากต้องการสร้างบุ๊กมาร์กด้วยรหัสที่คุณเพิ่งคัดลอก ให้แตะปุ่มเมนูตามด้วยไอคอน “ดาว” ที่ด้านบนขวา ในหน้าจอที่ตามมา ให้ระบุชื่อที่กำหนดเองสำหรับบุ๊กมาร์ก (ฉันใช้ ‘Readit’) และวางโค้ด JavaScript ในช่อง URL เมื่อเสร็จแล้วให้แตะ ‘บันทึก’ เพื่อจัดเก็บ bookmarklet ที่สร้างขึ้นใหม่
เมื่อเสร็จแล้ว การใช้ bookmarklet เป็นเรื่องง่าย เมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่บนหน้าเว็บที่คุณต้องการใช้ bookmarklet ให้ป้อนชื่อที่กำหนดเองซึ่งคุณระบุไว้สำหรับบุ๊กมาร์ก (‘Readit’ ในตัวอย่างนี้) แล้วกด Enter
คุณไม่จำเป็นต้องพิมพ์ชื่อทั้งหมดทุกครั้ง คุณสามารถป้อนตัวอักษรสองสามตัวและเลือกบุ๊กมาร์กจากผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ที่ Chrome แสดงด้านล่างแถบ URL
หลังจากแปลงไม่กี่วินาที bookmarklet จะโหลดไซต์ที่คุณกำลังดูอยู่ในความสามารถในการอ่านเพื่อให้อ่านง่าย และหากคุณเป็นผู้ใช้ความสามารถในการอ่าน คุณสามารถแตะ “อ่านภายหลัง” เพื่อเข้าถึงแบบออฟไลน์ได้ในภายหลัง
[via Lifehacker]